9/16/2554

หลักการและขั้นตอนในการพัฒนาสื่อในงานวิจัยระดับ ป.เอก

ชื่องานวิจัย : การพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
                       Health-Related Physical Fitness Development for Late Adolescence Students
         ผู้วิจัย : บุญเลิศ อุทยานิก
                       บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
1. หลักการและขั้นตอนในการพัฒนาสื่อในงานวิจัย
             1.1 ผู้วิจัยคัดกรองนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
             1.2 ผู้วิจัยทดสอบสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนักเรียน
             1.3 ผู้วิจัยประเมินสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนักเรียน
             1.4 ผู้วิจัยสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม
             1.5 ผู้วิจัยได้รูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่ได้มาตรฐาน
            1.6 นักเรียนมีสุขภาพทางกายที่ดี
2. หลักการประเมินสื่อและเทคโนโลยีของผู้วิจัย   
       ผู้วิจัยใช้แบบทดสอบทางกายที่หาค่าเที่ยงตรง  ซึ่งผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศและสอบถามผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครื่องมือทดสอบสมรรถภาพทางกาย ซึ่งได้เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงานวิจัยดังนี้
·         แบบทดสอบสถานะสุขภาพ
·         เกณฑ์การประเมินสถานะ
·         แบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย
·         เกณฑ์สมรรถภาพทางกาย
·         โปรแกรมการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
·         การเก็บรวบรวมข้อมูล
·         การวิเคราะห์ข้อมูล
·         สรุปผล
3. ผลการนำผลสื่อและเทคโนโลยีมาใช้ 
1. มีนักเรียนวัยรุ่นตอนปลายร้อยละ  71.91 หรือ 70 % เข้ารับการประเมินปัญหาสมรรถภาพทางกาย วัยรุ่นกลุ่มนี้มีอัตราความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อระบบหัวใจ ระบบกระดูกกล้ามเนื้อ   นักเรียนอีก  30 % หรือร้อยละ 28.8 ก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อระบบหัวใจ
2.  นักเรียนวัยรุ่น 35% ทำการวิฉัยพบว่ามีปัญหากับความอดทนระบบหัวใจและระบบไหลเวียนของเลือด
3. นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง  ถึง 89  คน  วินิฉัยและประเมินประสิทธิภาพมีความสมดุลระหว่างน้ำหนักส่วนสูง และมีนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 27 คน การประเมินมีปัญหาทางสุขภาพความไม่สมดุลระหว่างน้ำหนักตัวกับส่วนสูง
4.  ค่าเฉลี่ยคะแนนความอดทนของระบบหัวใจและการใหลเวียนเลือด  ด้วยการวิ่ง  20  เมตร  หลังการฝึก  8 สัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.5
5.  ค่าเฉลี่ยความอดทน ความแข็งแรงกล้ามเนื้อท้อง หลังฝึก 8 สัปดาห์   เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  0.5
6.  ค่าเฉลี่ย ความยืดหยุ่น ของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ก่อนและหลังทดสอบ 8 สัปดาห์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1และ 0.5