7/26/2554

ตะคริว (muscle cramps)

ตะคริว หมายถึง อาการกล้ามเนื้อเกร็งแข็งและปวด ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมักจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่นาที กล้ามเนื้อที่พบเป็นตะคริว ได้บ่อย ได้แก่ กล้ามเนื้อน่อง และตันขา ตะคริวเป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก ซึ่งมักจะพบเป็นครั้งคราวในเกือบทุกคน

สาเหตุ 
ส่วนมากจะไม่มีสาเหตุที่ร้ายแรงเป็นเพียงชั่วเดี่ยวเดียวก็หาย ได้เองบางคนอาจเป็นตะคริวที่น่องขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด บางคนอาจเป็นหลังออกกำลังกายมากกว่าปกติ หรือนอน นั่ง หรือยืน ในท่าที่ไม่สะดวกนานๆ (ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่สะดวก) ผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ หรืออาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือด ไปที่ขาไม่สะดวกในคนที่มีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (arteriosclerosis) เช่น คนสูงอายุที่มีโอกาสเป็นตะคริวได้บ่อยขึ้น และอาจเป็นขณะที่เดินนานๆ หรืออากาศเย็นตอนดึก หรือเช้ามืด เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไปที่ขาไม่ดี
ในผู้ป่วยที่ร่างกายเสียเกลือโซเดียม เนื่องจากท้องเดิน อาเจียน หรือสูญเสียไปทางเหงื่อเนื่องจากความร้อน (อากาศ หรือทำงานในที่ร้อนจัด) อาจเป็นตะคริวรุนแรง คือ เกิดกับกล้ามเนื้อหลายส่วน ของร่างกาย และมักจะเป็นอยู่นาน
การรักษา 
1. ขณะที่เป็นตะคริว ให้ทำการปฐมพยาบาล โดยใช้มือนวดกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริว หรือยืดกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้ตึง เช่น ถ้าเป็นตะคริวที่น่อง ให้เหยียดหัวเข่าให้ตรง ให้ดึงปลายเท้ากระดกเข้าหาหัวเข่า ให้มากที่สุด ถ้าเป็นตะคริวที่ต้นขาให้เหยียดหัวเข่าตรง ยกเท้าขึ้นให้พ้นจากเตียงเล็กน้อยกระดกปลายเท้าลงล่าง (ไปทางด้านตรงข้ามกับหัวเข่า)
2. ถ้าเป็นตะคริวขณะเข้านอนตอนดึกบ่อยๆ (เช่น หญิงที่ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ) ก่อนนอนควรดื่มนมให้มากขึ้น และยกเท้าสูง (ใช้หมอนรอง) จากเตียง 10 ซ.ม. (4 นิ้ว) ในหญิงตั้งครรภ์ อาจให้ยาเม็ดแคลเซียมแลกเทตกินวันละ 1-3 เม็ด
3. ถ้าเป็นตะคริวจากการเสียเกลือโซเดียม (เช่น เกิดจากท้องเดิน อาเจียน เหงื่อออกมาก) ควรให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ ถ้าดื่มไม่ได้ ควรให้ดื่มน้ำเกลือนอร์มัลซาไลน์ทางหลอดเลือดดำ
4. ถ้าเป็นๆ หายๆ บ่อย โดยเฉพราะอย่างยิ่งเป็นขณะเดินนานๆ ควรแนะนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสาเหตุ อาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดที่ขา หรือมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็งจากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคอื่นๆ 

1 ความคิดเห็น: